วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

กฏหมายเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ 3

เอ็คซ์ตาซี เป็นสารที่ได้จากการสังเคราะห์ทางเคมี ส่วนประกอบทางเคมีที่สำคัญคือ 3,4 Methylenedioxymethamphetamine , MDMA (เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน)ในประเทศไทยกำหนดให้สารนี้ เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 1 มักจะพบในลักษณะที่เป็นแคปซูลทั้งขนาดเล็กและใหญ่สีต่าง ๆหรือเป็นเม็ดกลมแบน สีขาว สีน้ำตาล สีชมพู ในบางประเทศรู้จักกันในนามยา “E” หรือ “ADAM” เอ็คซ์ตาวี มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทเช่นเดียวกับยาบ้าแต่รุนแรงมากกว่าจะออกฤทธิ์หลังจากเสพเข้าไปแล้วประมาณ 30-45 นาที และจะมีฤทธิ์อยู่ได้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ยาเอ็คซ์ตาซีจะออกฤทธิ์อย่างเงียบ ๆ โดยมีผลทำให้สำเหนียกของการได้ยินเสียงและการมองเห็นสีสูงเกินปกติ การออกฤทธิ์ในระยะสั้น ทำให้เกิดอาการเหงื่อออกปากแห้ง ไม่มีอาการหิว หัวใจเต้นเร็ว และความดันสูง มีอาการคลื่นเหียน บางครั้งก็มีอาการเกร็งที่แขนขา และขากรรไกร ผู้เสพอาจจะรู้สึกสัมผัสสิ่งต่าง ๆรุนแรงขึ้น รู้สึกผ่อนคลาย มึนและสงบ หลังจากนั้นผู้เสพอาจรู้สึกเหนื่อย และกดดันยังไม่มีหลักฐานที่สรุปได้ว่า เอ็คซ์ตาซีเป็นยาโป๊วที่ช่วยในเรื่องเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด
อาการของยาเสพติดประเภทหลอนประสาท
ยาเสพติดพวกนี้ทำให้เกิดประสาทหลอนได้อย่างมาก โดยทำลายประสาทสมองให้การรับรู้รับสัมผัสอย่างผิดแผกไปจากความจริงทั้งหมดเกิดอันตรายต่อร่างกายเช่น เพ้อคลั่ง ทุรนทุรายหรือเกิดอุบัติเหตุแก่ชีวิตได้ง่าย เพราะการหลงผิด และตัดสินใจผิดจากที่ควรจะเป็น

4.ประเภทออกฤทธิ์ผสมผสาน ( อาจกด กระตุ้น หรือหลอนประสาท ร่วมกัน ) ได้แก่ กัญชา
แบ่งตามแหล่งที่มา
1. ยาเสพติดธรรมชาติ (Natural Drugs) คือ ยาเสพติดที่ผลิตมาจากพืช เช่น ฝิ่น มอร์ฟีน กระท่อม กัญชา เป็นต้น
2. ยาเสพติดสังเคราะห์ (Synthetic Drugs) คือ ยาเสพติดที่ผลิตขึ้นด้วยกรรมวิธีทางเคมี เช่น เฮโรอีน แอมเฟตามีน ยาอี เอ็คตาซี เป็นต้น
3. แบ่งตามกฎหมาย
ประเภทที่ ๑ ได้แก่ เฮโรอีน แอลเอสดี แอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า ยาอี หรือ ยาเลิฟ
ประเภท ที่ ๒ ยาเสพติดประเภทนี้สามารถนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้ แต่ต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ และใช้เฉพาะกรณีที่จำเป็นเท่านั้น ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน โคเคน หรือ โคคาอีน โคเคอีน และเมทาโดน ฝิ่นซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒ หมายถึง ฝิ่นดิบ ฝิ่นสุก หรือมูลฝิ่น
ประเภทที่ ๓ ยาเสพติดประเภทนี้ เป็น ยาเสพติดให้โทษที่มียาเสพติดประเภทที่ ๒ ผสมอยู่ด้วย มีประโยชน์ทางการแพทย์ การนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น หรือเพื่อเสพติด จะมีบทลงโทษกำกับไว้ ยาเสพติดประเภทนี้ ได้แก่ ยาแก้ไอ ที่มีตัวยาโคเคอีน ยาแก้ท้องเสีย ที่มีฝิ่นผสมอยู่ด้วย ยาฉีดระงับปวดต่าง ๆ เช่น มอร์ฟีน เพทิดีน ซึ่งสกัดมาจากฝิ่น

ประเภท ที่ ๔ คือสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 หรือประเภทที่ 2 ยาเสพติดประเภทนี้ไม่มีการนำมาใช้ประโยชน์ในการบำบัดโรคแต่อย่างใด และมีบทลงโทษกำกับไว้ด้วย ได้แก่ น้ำยาอะเซติคแอนไฮไดรย์ และ อะเซติลคลอไรด์ ซึ่งใช้ในการเปลี่ยน มอร์ฟีน เป็น เฮโรอีน สารคลอซูไดอีเฟครีน สามารถใช้ในการผลิต ยาบ้า ได้ และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทอีก 12 ชนิด ที่สามารถนำมาผลิตยาอีและยาบ้าได้
ประเภทที่ ๕ เป็นยาเสพติดให้โทษที่มิได้เข้าข่ายอยู่ในยาเสพติดประเภทที่ ๑ ถึง ๔ ได้แก่ ทุกส่วนของพืช กัญชา ทุกส่วนของพืช กระท่อม เห็ดขี้ควาย เป็นต้น
วิธีการเสพยาเสพติด
กระทำได้หลายวิธี ดังนี้คือ
1. สอดใต้หนังตา
2. สูบ
3. ดม
4. รับประทานเข้าไป
5. อมไว้ใต้ลิ้น
6. ฉีดเข้าเหงือก
7. ฉีดเข้าเส้นเลือด
8. ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
9. เหน็บทางทวารหนัก
ลักษณะของยาเสพติดให้โทษที่พบบ่อย
ยา เสพติดให้โทษมีหลายชนิด แต่ที่แพร่หลายในประเทศเป็นภัยร้ายแรงต่อสุขภาพ ร่างกาย ตลอดจนความมั่นคงของประเทศ เช่น ฝิ่น มอร์ฟีน เฮโรอีน กัญชา กระท่อม ฯลฯ
1. ฝิ่น เป็นยาเสพติดที่แพร่หลายก่อนที่ยาเสพติดชนิดอื่นๆ ฝิ่นสกัดได้จากยางของเปลือกผลฝิ่นดิบ ซึ่งมีลักษณะเป็นยางเหนียวสีน้ำตาลไหม้ เมื่อเคี่ยวสุกจะมีสีดำรสขมมีกลิ่นพิเศษเฉพาะตัว แอลคะลอยด์ในฝิ่นแบ่งแยกได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 ออกฤทธิ์ทำให้เกิดอาการมึนเมา และเป็นยาเสพติดให้โทษโดยตรง แอลคะลอยด์ประเภทนี้ทางเภสัชวิทยาถือว่า เป็นยาทำให้นอนหลับ (Hypnotic) แอลคะลอยด์ที่เป็นสารเสพติดซึ่งออกฤทธิ์ตัวสำคัญที่สุดในฝิ่น คือ มอร์ฟีน (Morphine) ประเภทที่ 2 ออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อเรียบหย่อนคลายตัว ซึ่งในทางเภสัชวิทยาถือว่า
แอลคะลอยด์ในฝิ่นประเภทนี้ไม่เป็นสารเสพติด แต่มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อของร่างกายหย่อนคลายตัว ซึ่งมีปาปาเวอร์รีน (Papaverine) เป็นตัวสำคัญ
2. เฮโรอีน เป็นยาเสพติดให้โทษร้ายแรงที่สุด และเป็นพิษเป็นภัยแพร่หลายระบาดมากที่สุดในปัจจุบัน มีฤทธิ์และโทษรุนแรงกว่าฝิ่นประมาณ 100 เท่า รุนแรงกว่ามอร์ฟีนประมาณ 10 เท่าเฮโรอีนที่จำหน่ายในประเทศไทย มี 2 ชนิด
1) เฮโรอีนบริสุทธิ์ หรือเฮโรอีนเบอร์ 4 หรือผงขาว มีลักษณะเป็นผงละเอียดสีขาวไม่มีกลิ่น รสขมจัด
2) เฮโรอีนผสม หรือเฮโรอีเบอร์ 3 หรือไประเหย โดยจะผสมสารอื่นปนไปด้วย มีลักษณะเป็นเกล็ด มีสีต่างๆ เช่น ม่วง แดง ส้ม เทา น้ำตาล เป็นต้น
3. กัญชา เป็นพืชล้มลุก มีสารที่ทำให้เสพติด คือ ยางเรซินของดอกกัญชา และยางที่ออกจากใบของต้นกัญชาตัวเมีย กัญชามีฤทธิ์กระตุ้นทำให้ประสาทหลอนเห็นภาพผิดไปจากความเป็นจริง ความนึกคิดสับสน ประสาทมึนงง ถ้าเสพนานเข้าอาจกลายเป็นโรคจิตได้
4. กระท่อม สารที่ทำให้เสพติดมีอยู่ในใบของกระท่อม มีฤทธิ์ทำให้ประสาทหลอน ประสาทมึนชา
ยาเสพติดกำเนิดใหม่ หมายถึง สาร เสพติดที่ยังไม่เคยถูกนำออกมาเผยแพร่ในสังคมมาก่อนหน้านี้ ยังไม่เคยมีการใช้และการแพร่ระบาด และยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องสถานะทางกฎหมายที่ใช้ในการควบคุม
สาเหตุของการกำเนิด คือ
1. นำเสนอสินค้าใหม่เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด
2. เพื่อทดลองวิชาความรู้ทางด้านการดีไซน์ยาเสพติด
3. เพื่อนำหน้าการควบคุมทางกฎหมาย/หลีกเลี่ยงกฎหมาย
4. เพื่อเศรษฐกิจของผู้ค้า
ตัวยา ได้แก่
1. mCPP เม็ดกลม สีเขียว มีฤทธิ์เหมือนยากลุ่มเอ็กซ์ตาซี
2. DMA เป็นก้อนสีขาวใสเล็กๆ มีฤทธิ์เหมือนยาบ้า เข้าสู่ร่างกายแล้วถูกเปลี่ยนเป็นยาบ้าที่ตับ
3. Synthetic Heroin Pills (Subutex) เม็ดยาวรี มีร่องแบ่งครึ่งเม็ด มีฤทธิ์เหมือนเฮโรอีน
4. Synthetic Heroin Pills (3-methylfentanyl) ผงละเอียดสีน้ำตาลอ่อน สูดเข้าโพรงจมูกแล้วได้ฤทธิ์เหมือนเฮโรอีน
5. New Heroin หรือ MPTP ผงละเอียดสีขาว สูดเข้าโพรงจมูกแล้วได้ฤทธิ์เหมือนเฮโรอีน และทำให้เกิด parkinsonian syndrome
6. Crack หรือ ROCK ผงสีขาว สูดควันแล้วได้ฤทธิ์กระตุ้นประสาท
7. วันทูคอล/4x100/8x100/10x100 ยาน้ำสีต่างๆ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาไม่ชัดเจน
8. เด็กซ์โตร ยาเม็ดแก้ไอ ทำให้เกิดอาการเมาและประสาทหลอน
9. ไฟแช็กแก๊ส ไฟแช็กแก๊สสำเร็จรูปแบบใช้หมดแล้วทิ้ง ทำให้เกิดอาการมึนเมาจากฤทธิ์กดประสาท
10. Bufo paper/Cane toads skin กระดาษซับ/หนังกบตากแห้ง ทำให้เกิดอาการประสาทหลอน เกิด Serotonin Syndrome
อัตราโทษของความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษฉบับที่ 5 พ.ศ.2545
1. อัตราโทษของความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 1
-ผู้ใดผลิต นำเข้า หรือส่งออกจำคุกตลอดชีวิตและปรับ 1,000,000-5,000,000 บาท คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 3 กรัม ขึ้นไป ถือว่ากระทำเพื่อจำหน่าย โทษประหารชีวิต ผลิตโดยแบ่งบรรจุ รวมบรรจุ คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 3กรัม จำคุก 4-15 ปี หรือปรับ 80,000-300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผลิตเพื่อจำหน่าย คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 3 กรัม จำคุก 4 ปีถึงตลอดชีวิต แ
-ผู้ใดจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 3 กรัม จำคุก 4-15 ปี หรือปรับ 80,000-300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 3 กรัม- 20 กรัม จำคุก 4 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับ 400,000-5,000,000 บาท คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 20 กรัมขึ้นไป จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 1,000,000-5,000,000 บาท หรือประหารชีวิต ละปรับ 400,000-5,000,000 บาท
-ผู้ใดมีไว้ครอบครองคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่ถึง 3 กรัม จำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-ผู้ใดมีไว้เสพจำคุก 6 เดือน - 3 ปีหรือปรับ 10,000-60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-ผู้ใดยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นเสพ จำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 20,000- 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-ผู้ใดใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลัง ประทุษร้าย ข่มขืนใจให้ผู้อื่นเสพจำคุก 1-10 ปี และปรับ 100,000-1,000,000 บาท
- ถ้าทำโดยมีอาวุธหรือร่วมกัน 2 คนขึ้นไป จำคุก 2-15 ปี และปรับ 200,000-1,500,000บาท ถ้ากระทำต่อหญิงหรือผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือเพื่อจูงใจให้ผู้อื่นทำผิดอาญา หรือเพื่อประโยชน์ในการทำผิดอาญา จำคุก 3 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับ 300,000 -500,000บาท ถ้าเป็นมอร์ฟีน โคเคน เพิ่มโทษขึ้นกึ่งหนึ่ง และถ้ากระทำต่อหญิงหรือผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 1,000,000-5,000,000 บาทถ้าเป็นเฮโรอีน โทษเป็น 2 เท่า และถ้ากระทำต่อหญิงหรือผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โทษประหารชีวิต
2. อัตราโทษของความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 2 เช่น ฝิ่น มอร์ฟีน หรือโคคาอีน
-ผู้ใดผลิต นำเข้า หรือส่งออกจำคุก 1-10 ปีและปรับ 100,000 -1,000,000 บาท ถ้าเป็นมอร์ฟีน ฝิ่น โคคาอีน จำคุก 20 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับ 2,000,000-5,000,000 บาท
-ผู้ใดมีไว้ในครอบครองจำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000 –200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเป็นมอร์ฟีน ฝิ่น โคคาอีน คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 100 กรัม จำคุก 3-20 ปี หรือปรับ 60,000-400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน100 กรัม จำคุก 5 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับ 500,000-5,000,000 บาท
-ผู้ใดมีไว้ครอบครองจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 100 กรัมขึ้นไป ถือว่าครอบครองเพื่อจำหน่าย
-ผู้ใดเสพ จำคุก 6 เดือน - 3 ปี หรือปรับ 10,000-60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-ผู้ใดยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นเสพ จำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 20,000- 100,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-ผู้ใดใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลัง ประทุษร้าย ข่มขืนใจให้ผู้อื่นเสพจำคุก 1-10 ปี และปรับ 100,000-1,000,000 บาท ถ้าทำโดยมีอาวุธหรือร่วมกัน 2 คนขึ้นไป จำคุก 2-15 ปี และปรับ 200,000-1,500,000บาท ถ้ากระทำต่อหญิงหรือผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือเพื่อจูงใจให้ผู้อื่นทำผิดอาญา หรือเพื่อประโยชน์ในการทำผิดอาญา จำคุก 3 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับ 300,000 -500,000บาทถ้าเป็นมอร์ฟีน โคคาอีน เพิ่มโทษขึ้นกึ่งหนึ่ง และถ้ากระทำต่อหญิงหรือผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 1,000,000-5,000,000 บาทถ้าเป็นเฮโรอีน โทษเป็น 2 เท่า และถ้ากระทำต่อหญิงหรือผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โทษประหารชีวิต



3. อัตราโทษของความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 3
- ผู้ใดผลิตหรือนำเข้าจำคุก 1-3 ปี และปรับ 100,000- 300,000บาท
-ผู้ใดจำหน่ายหรือส่งออกจำนวนไม่เกินกฎกระทรวงกำหนด จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับจำนวนเกินกฎกระทรวงกำหนด จำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท
-ผู้ใดใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ข่มขืนใจให้ผู้อื่นเสพจำคุก 1-10 ปี และปรับ 100,000-1,000,000 บาท
-ถ้าทำโดยมีอาวุธหรือร่วมกัน 2 คนขึ้นไป จำคุก 2-15 ปี และปรับ 200,000-1,500,000บาทถ้ากระทำต่อหญิงหรือผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือเพื่อจูงใจให้ผู้อื่นทำผิดอาญา หรือเพื่อประโยชน์ในการทำผิดอาญา จำคุก 3 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับ 300,000 -500,000บาทถ้าเป็มอร์ฟโคคาอีน เพิ่มโทษขึ้นกึ่งหนึ่ง และถ้ากระทำต่อหญิงหรือผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 1,000,000-5,000,000 บาทถ้าเป็นเฮโรอีน โทษเป็น 2 เท่า และถ้ากระทำต่อหญิงหรือผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โทษประหารชีวิต
4. อัตราโทษของความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 4
-ผู้ใดครอบครองจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 10 กก.ขึ้นไป ถือว่าครอบครองเพื่อจำหน่าย
-ผู้ใดผลิต นำเข้า หรือส่งออกจำหน่าย ครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับ 20,000-200,000 บาท10 กก.ขึ้นไป จำคุก 1 -15 ปี และปรับ 100,000

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น